
มาทำความรู้จักกับโปรแกรม ERP
July 14, 2021
เปรียบเทียบการติดตั้งระบบ ERP แบบ On-Premise กับ Cloud Based
November 26, 2021 หลายองค์กรที่กำลังมองหาระบบ ERP อาจมีความกังวลว่าการจะวางระบบERPให้สำเร็จนั้นเป็นเรื่องยากและมีปัจจัย
ต่างๆ ที่มาเกี่ยวข้องมากมาย แท้จริงแล้ว ปัจจัยหลายประการที่เกี่ยวข้องกับความสำเร็จของโปรเจคต์นั้น หากเรามีการ
วางแผนและจัดการได้เป็นอย่างดี ย่อมทำให้การวางระบบ ERP นั้นสำเร็จตามเป้าหมายขององค์กรได้ วันนี้เราจะนำท่านมา
รู้จักกับกุญแจสำคัญของการวางระบบERP ให้สำเร็จ
ต่างๆ ที่มาเกี่ยวข้องมากมาย แท้จริงแล้ว ปัจจัยหลายประการที่เกี่ยวข้องกับความสำเร็จของโปรเจคต์นั้น หากเรามีการ
วางแผนและจัดการได้เป็นอย่างดี ย่อมทำให้การวางระบบ ERP นั้นสำเร็จตามเป้าหมายขององค์กรได้ วันนี้เราจะนำท่านมา
รู้จักกับกุญแจสำคัญของการวางระบบERP ให้สำเร็จ

Key success to Implement ERP system
1.Assign a Core Project Team กำหนดคณะทำงาน
จัดตั้งคณะทำงานเพื่อกำหนดบทบาทหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับโครงการวางระบบ ERP เช่น มี Project owner เป็นประธานของ
โครงการดูในเรื่องนโยบายและภาพรวม มี Project manager ที่เป็นผู้รวบรวมขอบเขตงานของทุกแผนก, ติดตามความคืบหน้าของ
โครงการ, key user ของแต่ละแผนกที่จะให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง กับการทำงานในแผนกของตนเอง ดังนั้นจึงจะเห็นได้ว่าคณะทำงานนี้
มีความสำคัญที่จะเป็น ตัวกำหนดขอบเขตของความต้องการ, แผนงาน และรวมถึงเป็นผู้ที่ต้องตัดสินใจในกรณีที่เกิดปัญหาต่างๆ
ระหว่างการวางระบบ ERP ได้
2.Define Goal & Clear Requirements กำหนดเป้าหมายและความต้องการให้ชัดเจน
กำหนดเป้าหมายหลักของการนำโปรแกรม ERPมาใช้ และกำหนดกระบวนการทำงานและความต้องการให้ชัดเจนเพื่อให้สอดคล้อง
กับเป้าหมายหลักทีวางไว้ และรวมถึงกำหนดผลลัพธ์และจุดวัดผลที่ชัดเจนของแต่ละเป้าหมายว่าคืออะไร
3.Select the Right ERP Implementation Partner คัดเลือกซอฟต์แวร์และบริษัท ERP ที่ตรงกับเรามากที่สุด
หลังจากมีเป้าหมายที่ชัดเจนแล้ว ขั้นตอนนี้จะเป็นคัดเลือก Software ERP ที่มีคุณสมบัติตรงกับความต้องการขององค์กร รวมไป
ถึงการคัดเลือกบริษัท ERP ที่มีประสบการณ์, ความชำนาญและความเข้าใจในลักษณะธุรกิจของคุณ รวมไปถึงต้องเป็นบริษัทที่มี
มาตรฐานของงานบริการ ในระหว่างการวางระบบและการให้บริการหลังการขายเป็นอย่างดี
4.Ensure Your Data is Clean ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลตั้งต้น
คุณควรตรวจสอบข้อมูลตั้งต้นทั้งหมดไว้ล่วงหน้า ก่อนที่จะวางระบบ ERP เพราะเป็นปัจจัยหนึ่งที่อาจทำให้เกิดความล่าช้าของการ
วางระบบ หรืออาจทำให้ได้ข้อมูลขยะเข้ามาอยู่ในระบบ ERP ตัวใหม่ได้ โดยข้อมูลตั้งต้น เช่น รหัสสินค้า (Item Code), สูตรการผลิต
(BOM) ขั้นตอนการผลิต (Routing) หรือข้อมูลผังบัญชี เป็นต้นน โดยข้อมูลตั้งต้นเหล่านี้ควรตรวจสอบและกำหนดเป็นแนวทางที่
ชัดเจนภายในบริษัทก่อนจะเริ่มติดตั้งระบบERP
5.Control Change Management การบริหารการเปลี่ยนแปลง
บริหารการเปลี่ยนแปลงให้เหมาะสม ควรแจ้งให้ทุกคนในองค์กรรับทราบ ถึงการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นหลังจากนำโปรแกรม
ERP และประโยชน์ที่ได้คืออะไร เพื่อให้user ได้ทำความเข้าใจกับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น รวมถึงหากเกิดความต้องการเพิ่มเติม
ในระหว่างของการวางระบบERP ต้องมีแนวทางในการตรวจสอบว่าความต้องการนี้ส่งผลกับการทำงานภาพรวมอย่างไร มีความ
จำเป็นมากน้อยขนาดไหนที่ต้องให้โปรแกรมรองรับสิ่งนี้
6.Important fo ERP training ให้ความสำคัญกับการฝึกอบรม
ให้ความสำคัญกับขั้นตอนการฝึกอบรม โดยจัดกลุ่มของการฝึกอบรมระบบ ERP ให้เหมาะสม เช่น สำหรับฝ่าย IT, สำหรับหัวหน้า
ฝ่ายที่เกี่ยวข้อง, สำหรับระดับปฏิบัติการ เพื่อให้แต่ละฝ่ายมีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องและเหมาะสมเพื่อจะนำไปใช้ในขั้นตอนการ
ทำงานจริงได้
7.Testing & Deployment การทดสอบและใช้งานจริง
จัดทำตารางการทดสอบของแต่ละระบบอย่างชัดเจน เมื่อทำการทดสอบและพบปัญหาต่างๆ แล้วต้องรีบแจ้งให้กับบริษัทERP เพื่อ
แก้ไขปัญหาเหล่านั้น และในขั้นตอนของการใช้งานจริง ผู้ใช้งานต้องให้เวลาอย่างเต็มที่สำหรับการใช้งานระบบ ERP ตัวใหม่ โดยบาง
บริษัทอาจกำหนดให้มีการ Parallel run คู่กับระบบเดิม ซึ่งอาจจะเพิ่มงานในช่วงเวลานี้ให้กับผู้ใช้งาน ดังนั้นต้องเตรียมความพร้อม
และทำความเข้าใจกับผู้ใช้งานในขั้นตอนนี้
จัดตั้งคณะทำงานเพื่อกำหนดบทบาทหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับโครงการวางระบบ ERP เช่น มี Project owner เป็นประธานของ
โครงการดูในเรื่องนโยบายและภาพรวม มี Project manager ที่เป็นผู้รวบรวมขอบเขตงานของทุกแผนก, ติดตามความคืบหน้าของ
โครงการ, key user ของแต่ละแผนกที่จะให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง กับการทำงานในแผนกของตนเอง ดังนั้นจึงจะเห็นได้ว่าคณะทำงานนี้
มีความสำคัญที่จะเป็น ตัวกำหนดขอบเขตของความต้องการ, แผนงาน และรวมถึงเป็นผู้ที่ต้องตัดสินใจในกรณีที่เกิดปัญหาต่างๆ
ระหว่างการวางระบบ ERP ได้
2.Define Goal & Clear Requirements กำหนดเป้าหมายและความต้องการให้ชัดเจน
กำหนดเป้าหมายหลักของการนำโปรแกรม ERPมาใช้ และกำหนดกระบวนการทำงานและความต้องการให้ชัดเจนเพื่อให้สอดคล้อง
กับเป้าหมายหลักทีวางไว้ และรวมถึงกำหนดผลลัพธ์และจุดวัดผลที่ชัดเจนของแต่ละเป้าหมายว่าคืออะไร
3.Select the Right ERP Implementation Partner คัดเลือกซอฟต์แวร์และบริษัท ERP ที่ตรงกับเรามากที่สุด
หลังจากมีเป้าหมายที่ชัดเจนแล้ว ขั้นตอนนี้จะเป็นคัดเลือก Software ERP ที่มีคุณสมบัติตรงกับความต้องการขององค์กร รวมไป
ถึงการคัดเลือกบริษัท ERP ที่มีประสบการณ์, ความชำนาญและความเข้าใจในลักษณะธุรกิจของคุณ รวมไปถึงต้องเป็นบริษัทที่มี
มาตรฐานของงานบริการ ในระหว่างการวางระบบและการให้บริการหลังการขายเป็นอย่างดี
4.Ensure Your Data is Clean ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลตั้งต้น
คุณควรตรวจสอบข้อมูลตั้งต้นทั้งหมดไว้ล่วงหน้า ก่อนที่จะวางระบบ ERP เพราะเป็นปัจจัยหนึ่งที่อาจทำให้เกิดความล่าช้าของการ
วางระบบ หรืออาจทำให้ได้ข้อมูลขยะเข้ามาอยู่ในระบบ ERP ตัวใหม่ได้ โดยข้อมูลตั้งต้น เช่น รหัสสินค้า (Item Code), สูตรการผลิต
(BOM) ขั้นตอนการผลิต (Routing) หรือข้อมูลผังบัญชี เป็นต้นน โดยข้อมูลตั้งต้นเหล่านี้ควรตรวจสอบและกำหนดเป็นแนวทางที่
ชัดเจนภายในบริษัทก่อนจะเริ่มติดตั้งระบบERP
5.Control Change Management การบริหารการเปลี่ยนแปลง
บริหารการเปลี่ยนแปลงให้เหมาะสม ควรแจ้งให้ทุกคนในองค์กรรับทราบ ถึงการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นหลังจากนำโปรแกรม
ERP และประโยชน์ที่ได้คืออะไร เพื่อให้user ได้ทำความเข้าใจกับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น รวมถึงหากเกิดความต้องการเพิ่มเติม
ในระหว่างของการวางระบบERP ต้องมีแนวทางในการตรวจสอบว่าความต้องการนี้ส่งผลกับการทำงานภาพรวมอย่างไร มีความ
จำเป็นมากน้อยขนาดไหนที่ต้องให้โปรแกรมรองรับสิ่งนี้
6.Important fo ERP training ให้ความสำคัญกับการฝึกอบรม
ให้ความสำคัญกับขั้นตอนการฝึกอบรม โดยจัดกลุ่มของการฝึกอบรมระบบ ERP ให้เหมาะสม เช่น สำหรับฝ่าย IT, สำหรับหัวหน้า
ฝ่ายที่เกี่ยวข้อง, สำหรับระดับปฏิบัติการ เพื่อให้แต่ละฝ่ายมีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องและเหมาะสมเพื่อจะนำไปใช้ในขั้นตอนการ
ทำงานจริงได้
7.Testing & Deployment การทดสอบและใช้งานจริง
จัดทำตารางการทดสอบของแต่ละระบบอย่างชัดเจน เมื่อทำการทดสอบและพบปัญหาต่างๆ แล้วต้องรีบแจ้งให้กับบริษัทERP เพื่อ
แก้ไขปัญหาเหล่านั้น และในขั้นตอนของการใช้งานจริง ผู้ใช้งานต้องให้เวลาอย่างเต็มที่สำหรับการใช้งานระบบ ERP ตัวใหม่ โดยบาง
บริษัทอาจกำหนดให้มีการ Parallel run คู่กับระบบเดิม ซึ่งอาจจะเพิ่มงานในช่วงเวลานี้ให้กับผู้ใช้งาน ดังนั้นต้องเตรียมความพร้อม
และทำความเข้าใจกับผู้ใช้งานในขั้นตอนนี้
